เชน วอร์ด เกิดมาในครอบครัวเชื้อสายไอริชขนาดใหญ่ เขามีพี่น้อง 6 คน มีพี่สาวฝาแฝดหนึ่งคนชื่อเอ็มม่า เมื่อเขาอายุได้สิบขวบและพ่อก็แยกออกไป เขาอยู่กับแม่และพี่น้อง และก่อนหน้าที่เขาจะเป็นผู้ชนะ ดิ เอ็กซ์ แฟกเตอร์ เขาเคยมีวงดนตรีชื่อ เดอะ เดสทินี่ (The Destiny) กับเพื่อนสมาชิกสองสาว เทรซี่ เมอร์ฟี่ (Tracy Murphy) และ เทรซี่ย์ ไลล์ (Tracey Lyle) พวกเขาตระเวนเล่นตามผับและงานแต่งงาน เล่นเพลงคัฟเว่อร์ของวงควีน ไปจนถึงเอ็มม่า บันตัน และกว่าที่พวกเขาจะได้ค่าเหนื่อยประมาณ 50 ปอนด์ เดอะ เดสทินี่ต้องโชว์ที่ยาว 45 นาที ถึง 2 โชว์ด้วย
ในระหว่างการแข่งขัน ดิ เอ็กซ์ แฟกเตอร์เชนได้รับการสั่งสอนจากนักปั้นศิลปินคนดัง หลุยส์ วอลช์ (Louis Walsh) ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นผู้จัดการของเขา เชนเอาชนะคู่ดูโอ เจอร์นี่ เซาท์ (Journey South) และ แอนดี้ อับราฮัม (Andy Abraham) ได้ในรอบตัดสิน เขาชนะด้วยคะแนนโหวตจากทางบ้านที่มากถึง 10.8 ล้านโหวต (ในขณะที่จากผลสำรวจมีคนดูรายการนี้ทางช่อง ITV2 เพียง 9.2 ล้านคน แสดงว่ามีคนดูที่โหวตมากกว่าหนึ่งครั้ง
ซิงเกิ้ลแรก ‘That’s My Goal’ ออกขายในอังกฤษเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2005 และกลายเป็นเพลงอันดับ 1 ในช่วงวันหยุดคริสต์มาส 2005 กับยอดขาย 313,000 ก๊อปปี้ในวันแรกที่ออกวางขาย กลายเป็นซิงเกิ้ลที่ขายดีที่สุดอันดับ 3 รองจาก ‘Candle In The Wind’ (685,000 ก๊อปปี้) ของ เอลตัน จอห์น และ ‘Evergreen’ (400,000 ก๊อปปี้) ของวิล ยัง ‘No Promises’ คือซิงเกิ้ลที่ 2 ออกขายในอังกฤษเมื่อเดือนเมษายนปีนี้ และขึ้นถึงอันดับ 2 ใน UK Singles Chart
อัลบั้มที่ใช้ชื่อเขาเป็นชื่ออัลบั้ม ออกขายในหนึ่งสัปดาห์ถัดมา และขายได้มากถึง 95,000 ก๊อปปี้ในสองวันแรก ในสัปดาห์แรกขายได้ถึง 2 แสนก๊อปปี้กลายเป็นอัลบั้มอันดับ 1 ของชาร์ทสัปดาห์นั้น และตกลงมาในอันดับ 2 ในสัปดาห์ต่อมา อัลบั้มชุดนี้บันทึกเสียงที่เมืองสต็อคโฮล์ม โคเปนเฮเกน และ ลอนดอน โดยมีโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงรายหลายที่ร่วมงานในงานชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็น สตีฟ แมก (Steve Mac), เพอร์ แอนด์ เดวิด (Per & David), คัทฟาเธอร์ แอนด์ โจย์ (Cutfather & Joe) และ ควิซ/ลารอซซิ(Quiz/Larossi) นอกจากเพลงที่แต่งขึ้นใหม่แล้ว อัลบั้มนี้ยังมีเพลงรักบัลลาดอีกด้วย
เชน ได้เซ็นสัญญากับแบรนด์ คาลวิน ไคลน์ (Calvin Klein) เพื่อเป็นแบบให้เสื้อผ้าคอลเลคชั่น autumn/winter ปีนี้ ด้วยสัญญาที่มีมูลค่าสูงมากกว่า 5 แสนปอนด์ หรือ 35 ล้านบาท ส่วนอัลบั้มของเขานั้นขายไปได้มากกว่า 3 ล้านก๊อปปี้
ผลงานชุดที่ 2 ใช้ชื่อว่า ‘Breathless’ มีซิงเกิ้ลแรกในสหราชอาณาจักรอย่าง "If That's OK with You" เป็นดับเบิลเอไซด์ซิงเกิ้ลกับเพลง "No U Hang Up" ติดชาร์ทอันดับ 2 ในอังกฤษ